กินอาหารรสจัด สบายปากแต่ลำบากร่างกาย

อาหารไทยมีความขึ้นชื่อไปทั่วทุกๆ มุมโลกในเรื่องของความหลากหลายหลากรสชาติ เป็นที่ชื่นชอบของใครหลายคนและยังเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้คนทั่วโลกได้รู้จักประเทศไทยอีกด้วย ซึ่งอาหารไทยมีความแตกต่างกันไปในแต่ละภูมิภาคแต่ละวัฒนธรรมซึ่งสามารถแบ่งง่ายๆ เป็น อาหารเหนือที่มีรสชาติค่อนข้างไปทางจืด อาหารอีสานที่รสชาติจัดจ้าด อาหารกลางที่มีรสชาติที่รวมเอกลักษณ์ของทุกๆ ภาค และอาหารภาคใต้ที่มีรสเข้มข้นเผ็ดดุ เป็นต้น หลายท่านคงมองข้ามการกินอาหารที่มีรสจัดๆ และไม่ทราบว่ามีอันตรายซ้อนอยู่ บทความนี้จึงจะขอพาทุกๆ ท่านมารู้จักกับผลข้างเคียงจากการรับประทารนอาหารรสจัดต่อเนื่องว่าส่งผลเสียอย่างไรบ้าง

อาหารแบบใดถือว่าเป็นอาหารรสจัด ?

คำว่าอาหารรสจัด หมายถึง อาหารเค็ม, เปรี้ยวหรือเผ็ดเกินไป มีฤทธิ์เป็นกรด-ด่าง ก่อให้เกิดปฏิกิริยาภายในกระบวนการย่อยทั้งด้านที่มีประโยชน์และไม่มีประโยชน์ ส่งผลเสียต่อระดับการอย่อยอาหารได้ ซึ่งเราสามารถยกตัวอย่างอาหารรสจัดได้ เช่น
– อาหารรสเค็มจัด มักจะเป็นพวกอาหารแปรรูป, อาหารสำเร็จหรืออาหารแช่แข็ง
– อาหารรสหวานจัด ยกตัวอย่างเช่น ขนมเค้ก ชานมไข่มุก น้ำอัดลมเป็นต้น
– อาหารรสเปรี้ยวจัด เช่น พวกยำ ส้มตำ เป็นต้น
– อาหารรสเผ็ดจัด เช่น น้ำพริกนรก ส้มตำพริกสิบเม็ด เป็นต้น
– อาหารมันจัด เช่น ของทอด ขนมอบกรอบ เป็นต้น

ผลเสียของอาหารรสจัดแต่ละอย่างเป็นอย่างไร ?

ผลเสียของอาหารเค็มจัด  ส่งผลต่อสุขภาพขในเรื่องของระดับโซเดียมสูง โดยองค์การอนามัยโลกได้กำหนดให้รับประทานโซเดียมวันละ 2,000 มิลลิกรัม ซึ่งจากงานวิจัย คนไทยเฉลี่ยกินโซเดียมมากถึง 4,500 มิลลิกรัม/วัน ซึ่งไม่เป็นผลดี ส่งผลให้เกิดความดันโลหิตที่สูง ทั้งยังส่งผลต่อหัวใจและไตได้

ผลเสียของอาหารหวานจัด เป็นอีกหนึ่งปัญหาสุขภาพของคนไทย พบว่าปริมาณน้ำตาลของการบริโภคในคนไทยค่อนข้างสูง ประชากรไทยบริโภคน้ำตาลเฉลี่ยสูงถึง 34 กิโลกรัม/คน/ปี หรือคิดเป็น 23 ช้อนชา ซึ่งโดยปกติไม่ควรบริโภคน้ำตาลเกิน 6 ช้อนชา/วัน ก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพตามมา อาทิเช่น โรคอ้วน ไขมันสูง เบาหวาน เป็นต้น

ผลเสียของอาหารมันจัด โดยปกติแล้วร่างกายของคนเราต้องการพลังงานจากไขมันไม่เกินร้อยละ 30 โดยการรับประทานอาหารติดมันจากเนื้อสัตว์  แต่หากรับประทานอาหารที่มีไขมันเป็นส่วนประกอบมากเกินไป จะก่อให้เกิดไขมันส่วนเกินและสะสมไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกายได้นั้นเอง

วิธีหลีกเลี่ยงการกินอาหารรสจัดทำอย่างไรได้บ้าง ?

1.ฝึกรับประทานอาหารรสจืดและไม่ต้องปรุงอาหารมากเกินไป โดยการฝึกรับประทานอาหารรสจืดตั้งแต่เด็กเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพื่อหัดการบริโภคที่ถูกต้องเป็นนิสัยให้ติดไปจน
2.ลดอาหารเค็มทีละน้อย โดยกรณีที่รับประทานรสเค็มจัดติดไปจนโตแล้ว แต่อยากปรับพฤติกรรมให้ลดการรับประทานรสเค็มลงทีละน้อย ค่อย ๆ ปรับวิธีการปรุงอาหารทีละเล็กน้อย เพื่อให้ร่างกายปรับตัว
3.หลีกเลี่ยงอาหารอาหารสำเร็จรูป เนื่องจากอาหารสำเร็จรูปพวกบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป โจ๊กกึ่งสำเร็จรูป มักมีโซเดียมสูง 4.หลีกเลี่ยงการปรุงรสด้วยซอส อาหารพวกที่ต้องรับประทานคู่กับน้ำจิ้มหรือซอส เช่น ลูกชิ้น เกี๊ยวซ่า ซูชิ มักจะต้องทานคู่กับซอสปรุงรส ดังนั้นหากอยากรับประทานแนะนำให้หลีกเลี่ยงการเติมน้ำจิ้มหรือซอส จะช่วยลดเค็มได้ในระดับหนึ่ง
5.หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มรสหวาน ซึ่งเครื่องดื่มรสหวานมักเป็นตัวการสำคัญของโรคเบาหวาน เช่น เครื่องดื่มอัดลม น้ำหวาน ชา กาแฟ ส่วนมากมีปริมาณน้ำตาลสูงนั้นเอง
6.หลีกเลี่ยงอาหารติดมันและของทอด ในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไม่ให้รับประทานอาหารที่มันจัดนั้น ควรที่จะหลีกเลี่ยงอาหารที่มีเนื้อสัตว์ติดมันและของทอด และเปลี่ยนไปรับประทานอาหารที่ปรุงด้วยวิธีการนึ่งหรือต้มแทน

การดูแลสุขภาพที่ดีนั้นต้องเริ่มต้นจากการดูแลการกินเป็นอับดับแรก ดังนั้นการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการกินจึงเป็นเรื่องที่ท่านต้องอดทนและใส่ใจเป็นอย่างมาก และถ้าอยากให้ร่างกายสุขภาพดียิ่งขึ้นไปอีกนั้น ควรที่จะออกกำลังกายควบคู่กันไปด้วยครับ